การเขียนโปรแกรมเป็นกระบวนการสร้างคำสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่กำหนด มีบทบาทสำคัญในยุคดิจิทัลปัจจุบัน โดยเฉพาะในแง่การพัฒนาแอปพลิเคชันและระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ต
ประเภทของเว็บเขียนโปรแกรม
การเขียนโปรแกรมบนเว็บแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะการใช้งาน เช่น:
เว็บแอปพลิเคชัน (Web Applications): เป็นโปรแกรมที่ทำงานบนเว็บเบราว์เซอร์ เช่น เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ หรือระบบการจองออนไลน์(รับเขียนโปรแกรม) อ่านเพิ่มเติมที่
เว็บเซอร์วิส (Web Services): โปรแกรมที่ให้บริการผ่านเว็บเบราว์เซอร์ และมักใช้ในการเชื่อมต่อระหว่างระบบ
เว็บไซต์สำเร็จรูป (CMS): ระบบจัดการเนื้อหา เช่น WordPress, Joomla ซึ่งมีเครื่องมือพร้อมใช้งานสำหรับการสร้างเว็บไซต์
เว็บแอปพลิเคชันที่ใช้ฐานข้อมูล (Database-driven Web Applications): แอปพลิเคชันที่มีการเชื่อมต่อและประมวลผลข้อมูลจากฐานข้อมูล
ความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้เขียนโปรแกรม
การเขียนโปรแกรมต้องอาศัยความรู้ด้านภาษาโปรแกรม, อัลกอริทึม, โครงสร้างข้อมูล และการทำงานเป็นทีม นอกจากนี้ ความสามารถในการเรียนรู้และค้นคว้าสิ่งใหม่ๆ ก็มีความสำคัญ เนื่องจากเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
เทคโนโลยีและภาษาโปรแกรมที่ใช้งานบนเว็บ
HTML: ภาษามาตรฐานสำหรับการสร้างโครงสร้างของเว็บไซต์
CSS: ใช้ในการจัดรูปแบบและการแสดงผลเว็บไซต์
JavaScript: ช่วยเพิ่มการโต้ตอบกับผู้ใช้และสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้น
PHP: สำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันบนเว็บ เช่น ระบบการจัดการเนื้อหา
Python: ใช้สำหรับการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันและด้านวิทยาการข้อมูล
การเลือกใช้เฟรมเวิร์กและเครื่องมือในการเขียนโปรแกรม
เฟรมเวิร์กช่วยให้การพัฒนาแอปพลิเคชันเร็วขึ้น ตัวอย่างเช่น:
Laravel: เฟรมเวิร์ก PHP สำหรับการจัดการฐานข้อมูลและความปลอดภัย
ASP.NET: สำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันเว็บโดยใช้ C# หรือ Visual Basic.NET
AngularJS: เฟรมเวิร์ก JavaScript ที่นิยมใช้พัฒนาแอปพลิเคชันเชิงกระบวนการ
React: สำหรับการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันแบบหน้าเดียว
Vue.js: เฟรมเวิร์ก JavaScript ที่มีความยืดหยุ่นในการพัฒนา UI
กระบวนการในการเขียนโปรแกรมบนเว็บ
วางแผน (Planning): กำหนดความต้องการของระบบและเป้าหมาย
ออกแบบ (Design): วางโครงสร้างโปรแกรม การออกแบบฐานข้อมูล และส่วนติดต่อผู้ใช้
เขียนโค้ด (Coding): เขียนโค้ดตามการออกแบบ พร้อมปฏิบัติตามมาตรฐานในการเขียนโค้ด